เพลงลูกเสือจับมือ
ลูก เสือเขาไม่จับมือขวา ยื่นซ้ายมาจับมือกันมั่น มือขวาเขาใช้เคารพกัน (ซ้ำ)
ยื่นซ้ายออกมาพลันจับมือ จับมือจับมือเขาหมายถึงมิตร เหมือญาติสนิทควรคิดยึดถือ
ยิ้มด้วยเวลาจับมือ (ซ้ำ)
เพราะพวกเราคือลูกเสือด้วยกัน
(ซ้ำทั้งหมด)
นิทานและเพลงสนุก ๆพร้อมคติเตือนใจสำหรับเด็ก
เพลงลูกเสือจับมือ
ลูก เสือเขาไม่จับมือขวา ยื่นซ้ายมาจับมือกันมั่น มือขวาเขาใช้เคารพกัน (ซ้ำ)
ยื่นซ้ายออกมาพลันจับมือ จับมือจับมือเขาหมายถึงมิตร เหมือญาติสนิทควรคิดยึดถือ
ยิ้มด้วยเวลาจับมือ (ซ้ำ)
เพราะพวกเราคือลูกเสือด้วยกัน
(ซ้ำทั้งหมด)
คนไทยสมัยก่อนที่ยังกินหมาก เมื่อเวลามวนพลูจะเด็ดหางแหลมของใบพลูทิ้งไป เพราะเชื่อว่าหางแหลมหรือยอดใบพลูนี้มีพิษ
ดังเรื่องเล่าว่า มีเด็กกำพร้าผู้หนึ่งมียายแก่นำไปเลี้ยงจนโตและเรียกชื่อว่า ท้าวกำพร้า ท้าวกำพร้าเป็นคนมีบุญ มีความสามารถสร้างหลักฐานได้ เขามีภรรยาสวยงามมากและมีเพื่อสนิทเป็นผีชื่อ ผีน้อย
ภรรยาของท้าวกำพร้าสวยมากจนพระอินทร์หลงรักจะนำนางไปเป็นมเหสี
แต่นางเป็นมนุษย์จึงยังนำไปไม่ได้ ต้องให้นางตายก่อน แล้วจึงจะนำวิญญาณไป พระอินทร์จึงให้สัตว์ต่าง ๆ มาประชุมหาวิธีที่จะนำวิญญาณของนางมา ผีน้อยเพื่อนของท้าวกำพร้าก็ไปร่วมประชุมด้วย
ผีน้อยจึงแอบถามถึงวิธีที่สัตว์เหล่านั้นจะนำวิญญาณนางมา แล้วผีน้อยก็รีบมาบอกนางให้แก้ไข สัตว์ตัวแรกคือแมงป่อง จะซ่อนอยู่ที่กองฟืน พอนางหยิบฟืนจะไปหุงข้าว แมงป่องก็จะต่อยนางตาย
เมื่อนางทราบดังนี้ก็รีบฆ่าแมงป่องเสียก่อน สัตว์ตัวที่สองคืองูเห่าจะซ่อนตัวอยู่ในหม้อนึ่งข้าว เมื่อนางยกหม้อจะขึ้นตั้งบนเตา งูเห่าก็จะกัดนางให้ตาย เมื่อนางได้ทราบก่อนจึงเอาถามปิดปากหม้อ แล้วยกหม้อขึ้นตั้งไฟ งูเห่าก็ถูกต้มจนตาย สัตว์ตัวที่สามคือนกแสก จะร้องเรียกขวัญของนางให้ออกจากร่างแล้วนำขึ้นไปถวายพระอินทร์
ผีน้อยไม่รู้จะแก้ไขอย่างไรจึงบอกท้าวกำพร้ากับภรรยาว่า ถ้านางตายแล้วอย่าเพ่อรีบฝังหรือเผา ให้เก็บศพไว้ก่อน ผีน้อยจะหาวิธีแก้ไขให้ฟื้น
เมื่อนกแสกมาเรียกและนำขวัญของนางขึ้นไปถวายพระอินทร์ พระอินทร์ดีพระทัยมาก จัดงานเลี้ยงเป็นการใหญ่
ผีน้อยรับอาสาเป็นผู้เทเหล้าและได้มอมนกแสกจนเมา ผีน้อยก็อาสานำนกแสกกลับบ้าน โดยใส่ลงในข้องปลา
แล้วนำนกแสกมาที่บ้านท้าวกำพร้า ผีน้อยบังคับให้นกแสกเรียกขวัญของนางกลับมา มิฉะนั้นจะฆ่าให้ตาย
นกแสกจึงเรียกขวัญของนางมา นางก็ฟื้น ผีน้อยจึงนำนกแสกกลับไป ระหว่างทางผีน้อยถามว่านกแสกมีฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์เรียกขวัญได้นี้ ฤทธิ์ศักดิ์สิทธิ์อยู่ที่ไหน
นกแสกหลงกลก็ตอบว่าอยู่ที่ปลายลิ้น ผีน้อยขอให้แลบลิ้นให้ดู พอนกแสกแลบลิ้นออกมาผีน้อยก็เอามีดตัดปลายลิ้น
เลือดที่ลิ้นหยดไปถูกปลายพลู จึงถือว่าที่ปลายใบพลูมีพิษ เวลาจะรับประทานต้องเด็ดหางแหลมของใบพลูออกเสียก่อน ตั้งแต่นั้นมานกแสกก็ไม่สามารถเรียกขวัญใครได้เพราะปลายลิ้นขาดเสียแล้ว
ชาวนาคนหนึ่ง มีเสื้อผ้าชุดเดียว วันหนึ่งในฤดูหนาวเขาเปลือยกายท่อนบน นั่งอาบแดดในยามเช้า เขารู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมาก เขาบอกกับภรรยาว่า
“ไม่มีใครรู้ว่าการถอดเสื้อผิงแดดยามเช้านั้นมันอบอุ่นและเป็นสุขอย่างมาก ฉันจะไปเปิดเผยความรู้นี้แก่ผู้ครองนคร คงจะได้รับรางวัลอย่างแน่นอน”
เรื่องนี้รู้ไปถึงเศรษฐีคนหนึ่งซึ่งอยู่ในหมู่บ้านนั้น เศรษฐีผู้นี้เล่าเรื่องให้ฟังว่า
“นานมาแล้ว มีชายคนหนึ่งเคยกินแต่อาหารเลว ๆ เช่น ถั่ว เผือก มัน ผัก และหน่อไม้ตามป่า เขาไปบอกพวกเศรษฐีในเมืองให้ลองกินบ้าง
พวกเศรษฐีกินเข้าไป แล้วเกิดท้องเสีย จึงด่าว่าชายหนุ่มคนนั้นต่าง ๆ นานา เรื่องของชาวนาไม่ใส่เสื้อผิงแดดก็เหมือนกับชายที่กินอาหารเลว ๆ คนนี้แหละ”
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
การที่จะให้ใครชอบเหมือนเรานั้นเป็นไปไม่ได้
เพราะต่างคนต่างจิตต่างใจ
© 2013 นิทานก่อนนอนสอนลูก. All rights resevered. Designed by Templateism